เกี่ยวกับโรคติดเชื้อที่พบบ่อยในมนุษย์และสัตว์ Gnatostomosis

Gnatostomiasis เป็นโรคที่แพร่กระจายอย่างรุนแรงของมนุษย์และสัตว์เลี้ยงในบ้านเช่นแมวหมูสุนัข ฯลฯ พบได้ทั่วไปในคนในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรัสเซียพบตัวอ่อนของไส้เดือนฝอยในปลาในอ่างเก็บน้ำของเอเชียกลาง

โรคนี้เกิดจากไส้เดือนฝอยในวงศ์ Gnathostomatidae ไส้เดือนฝอยที่เจริญเติบโตทางเพศปรสิตในผนังกระเพาะอาหารหรือหลอดอาหารและบางครั้งก็อยู่ในไต ในมนุษย์ตัวอ่อน gnatostom จะถูกแปลในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังในปอดตาและระบบประสาทส่วนกลาง พวกมันอพยพอาศัยอยู่ในร่างกายเป็นเวลาหลายปี แต่ไม่ถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ ตัวอ่อน Gnathostom ถูกแปลในกล้ามเนื้อของปลาและอวัยวะภายใน ในปลาตัวอ่อนยาวได้ถึง 1 มม. และกว้าง 0.3 มม.

การพัฒนาของเชื้อโรคเกิดขึ้นจากการมีส่วนร่วมของโฮสต์ระดับกลาง - ไซคลอปส์และโฮสต์อ่างเก็บน้ำ - ปลาสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำและสัตว์เลื้อยคลาน โฮสต์ขั้นสุดท้ายจะขับไข่ออกสู่สิ่งแวดล้อมภายนอกพร้อมกับอุจจาระ ไข่ที่ตกลงไปในน้ำจะพัฒนาตัวอ่อนอยู่ในตัว ตัวอ่อนโผล่ออกมาจากไข่ลงไปในน้ำและถูกไซคลอปส์กลืนเข้าไป ในไซคลอปส์ตัวอ่อนจะพัฒนาลอกคราบและรุกราน ปลากลืนไซคลอปส์ที่ถูกรุกราน ตัวอ่อนจากลำไส้จะแทรกซึมเข้าไปในกล้ามเนื้อและอวัยวะอื่น ๆ ของปลาซึ่งพวกมันจะขดตัวและอิจฉา

ในแหล่งกักเก็บของเอเชียกลางพบตัวอ่อน gnathostom ในปลาดุก, หอกคอน, คอนและไซปรัส การติดเชื้อในมนุษย์และสัตว์เกิดขึ้นเมื่อรับประทานปลาดิบที่ติดเชื้อในสายพันธุ์ข้างต้น

โรคของมนุษย์เป็นเรื่องยากที่จะรักษาดังนั้นจึงควรป้องกันการติดเชื้อ gnatostomas โดยใช้วิธีการป้องกัน

การป้องกันโรคประกอบด้วยการห้ามไม่ให้คนและสัตว์กินปลาดิบ (ปลาดุกปลาหอกคอนและปลาตะเพียน) ที่จับได้ในแหล่งน้ำที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการบุกรุกครั้งนี้ ปลาเชิงพาณิชย์ที่จับได้จากแหล่งกักเก็บซึ่งก่อนหน้านี้ถูกตรวจพบโดย gnathost จะต้องได้รับการตรวจทางสุขาภิบาลและสัตวแพทย์ด้วยการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาการปนเปื้อนของไส้เดือนฝอยและการฆ่าเชื้อโรคในภายหลังโดยการแช่แข็งลึก ห้ามมิให้กินและให้อาหารปลาดิบที่ไม่ผ่านการบำบัดแก่แมวสุนัขสุกรสัตว์ที่มีขน

สำหรับการป้องกันโรค gnatostomosis ส่วนบุคคลก่อนรับประทานอาหารปลาจากแหล่งกักเก็บที่ผิดปกติหรือไม่ได้รับการสำรวจจะต้องผ่านการบำบัดความร้อนการแช่แข็งการทอดและการต้มเป็นอาหารสัตว์จนกว่าตัวอ่อนของไส้เดือนฝอยจะถูกฆ่าจนหมด งานอธิบายและการศึกษาดำเนินการในหมู่ประชากรเกี่ยวกับการป้องกันโรค gnatostomosis